น้องเมฆเริ่มเรียนเปียโนตอนอายุ 4 ขวบค่ะ โดยที่เหมือนกับเด็กทั่วๆไปคือน้องเมฆยังไม่รู้ความต้องการของตัวเอง เป็นพ่อแม่เอง ที่อยากให้ลูกได้ลองได้สัมผัสกับประสบการณ์ต่างๆ โดยที่เริ่มเรียนกับศูนย์ดนตรีชื่อดังในห้างสรรพสินค้า เมฆเป็นเด็กที่เล่นเปียโนพอใช้ได้ค่ะ มีวินัยในการซ้อมสูง(อาจจะเป็นเพราะแม่บังคับ) โรงเรียนส่งให้ไปแข่งขันบ้าง ก็มีทั้งเข้ารอบและตกรอบ เปลี่ยนครูมา 2-3 ท่าน บางช่วงของชีวิตลูกก็เล่นดนตรีได้ดีมาก (เพราะซ้อมวันละหลายชั่วโมง คุณครูบางท่านเป็นสายแข่ง ส่งเด็กแข่งทุกเวที) พอเริ่มเข้าสู่มัธยมต้น น้องเมฆเริ่มมีความชัดเจนเป็นของตัวเอง ขอเรียนดนตรีอย่างมีความสุข และอาจเป็นวาสนาที่ได้มาเจอครูอ้อ จากการคุยกันครั้งแรกรู้สึกประทับใจ…คุณครูพูดว่า “การสอนดนตรีต้องสอนเพื่อให้เด็กได้ประโยชน์ ไม่ใช่ครูได้ประโยชน์” จึงรู้สึกได้ถึงความจริงใจในความเป็นครูของคุณครูตั้งแต่ครั้งแรกที่คุยกัน หลังจากที่ได้เริ่มเรียนกับคุณครู น้องเมฆก็มีความสุขกับการเรียนดนตรี เพราะไม่มีความกดดันในเรื่องซ้อมไม่ทัน (ซึ่งความสุข ควรจะเป็นจุดมุ่งหมายที่ถูกต้องของการเรียนดนตรี) เมฆได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำไปพร้อมๆกับยัง keep ดนตรีไปได้คู่กัน พร้อมทั้งคุณครูยังให้คำปรึกษาและเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆ จนเรารู้สึกว่าคุณครูเป็นเสมือนครอบครัว
10 ปีที่เรียนดนตรีมา ลูกได้รับประโยชน์มากมายค่ะ นอกเหนือจากความสามารถ และความเพลิดเพลินในความไพเราะของบทเพลงนั้นๆ (ถึงแม้ว่าตอนซ้อมอาจจะไม่ค่อยเพลิดเพลินก็ตาม 55) ยังทำให้เมฆมีสมาธิดี มีความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการทำอะไรแต่ละอย่าง และความอดทนสูง มีแบตเตอรี่(ความอึด)ยาวนานกว่าคนอื่น ขอขอบพระคุณครูอ้อที่เป็นกำลังใจ,ใส่ใจ, เข้าใจ และปรารถนาดีกับน้องเมฆเสมอมาด้วยค่ะ