ดนตรีพัฒนา IQ และ EQ
จากสภาพสังคมปัจจุบันที่มีแต่การแข่งขัน ส่งผลไปถึงพฤติกรรมของเด็ก ดังจะเห็นว่าเด็กสมัยนี้ดูเหมือนก้าวร้าวไม่ว่าการกระทำหรือคำพูด พฤติกรรมการแสดงออกขาดความยั้งคิด ประกอบกับสภาพการเรียนของเด็กไทยเป็นการเรียนแบบเอาเป็นเอาตายเพื่อให้มี IQ สูงนั้น ทำให้ผู้ปกครองหันมาสนใจในเรื่องของ EQ โดยคิดว่าจะมีส่วนช่วยส่งเสริมความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ให้กับบุตรหลานตนเอง ทางออกของผู้ปกครองคือการหากิจกรรม เพื่อเสริมสร้างความพร้อม ความสมบูรณ์ดังกล่าว แม้ว่าผู้ปกครองหลายท่านไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของ EQ ก็ตาม ดนตรีจึงเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่ ผู้ปกครองสมัยนี้นิยมให้ลูกเรียนเพื่อเสริมสร้าง IQ และ EQ ให้กับเด็ก
เมื่อผู้ปกครองเริ่มคิดจะให้ลูกเรียนดนตรี ควรเลือกเครื่องดนตรีให้เหมาะกับลูก ผู้เขียนเห็นว่าประเภทของเครื่องดนตรีมีอิทธิพลต่อเด็ก ดนตรีที่อ่อนหวานจะพัฒนาไปในทางที่อ่อนหวาน เรียบร้อย สุขุม แต่ดนตรีที่เร่าร้อน จะมีผลให้พัฒนาไปในทาง รวดเร็ว ตัดสินใจเด็ดขาด ตัวอย่างของดนตรีที่มีผลต่ออารมณ์ของมนุษย์ จากผลการศึกษาพบว่าหากฟังเพลงที่มีจังหวะเร็ว รุนแรงขณะขับรถจะส่งผลให้ขับรถเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัวอันมีผลมาจากเสียงของดนตรีที่ฟัง ดังนั้นการปรับเปลี่ยนทัศนคติ ค่านิยมและปลูกฝังให้เด็กได้สะสมความสุขุม เยือกเย็น มีสุนทรียภาพ ความอ่อนโยน นับว่าเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นวิธีการป้องกันไม่ใช่การแก้ไข การพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ด้วยการให้เด็กเรียนดนตรีเป็นการลงทุนที่น้อยที่สุดหากเปรียบกับการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นภายหลัง
ผู้ปกครองหลายท่านสงสัยว่าดนตรีนอกจากจะพัฒนาด้านอารมณ์ ทำให้มีจิตใจที่อ่อนโยนแล้ว จะช่วยพัฒนาสมอง เสริมสร้างสติปัญญา สมาธิ และมีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของเด็กได้อย่างไร เนื่องจากสมองของคนเรามี 2 ซีกคือซีกขวาและซีกซ้าย สมองซีกขวาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ สมองซีกซ้ายใช้ในเรื่องของการเรียนรู้หลักการ เหตุผล ความไพเราะของเสียงดนตรีจะกระตุ้นให้เส้นสมองพัฒนามากขึ้น ฉะนั้นการเรียนดนตรีจึงช่วยให้เด็กได้มีการพัฒนาสมองทั้ง 2 ซีกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การนำดนตรีคลาสสิคมาช่วยเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็กก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเด็กมีความเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ค่อนข้างเร็ว ดนตรีที่มีจังหวะช้าอย่างเหมาะสมจะกระตุ้นให้เกิดคลื่นสมองช่วยในเรื่องของความคิด การใช้เหตุผล ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ช่วยสร้างและพัฒนาความมั่นคงทางอารมณ์
ดนตรีนอกจากส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา พัฒนาความคิด ยังส่งผลให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการที่ดี ในที่นี้ผู้เขียนกล่าวถึงดนตรีคลาสสิค เพราะดนตรีคลาสสิคเป็นศิลปะบริสุทธิ์ เป็นความงดงามทางเสียง ในท่วงทำนองของเพลงนั้นเปรียบเสมือนการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง เต็มไปด้วยความรู้สึกของ ผู้ประพันธ์ และผู้ประพันธ์แต่ละท่าน มีรูปแบบการประพันธ์ที่ไม่เหมือนกัน ต่างกันในแต่ละยุคแต่ละสมัย แต่ละบทเพลงถ่ายทอดถึงบุคลิกลักษณะ สภาพจิตใจของผู้ประพันธ์ บางครั้งยังสื่อความหมายถึงสภาพบ้านเมือง หรือสภาพแวดล้อมในช่วงเวลานั้นด้วย ดังนั้นการเล่นดนตรีต้องอาศัยสติปัญญาจึงสามารถถ่ายทอดความหมาย ความรู้สึกของผู้ประพันธ์มาสู่ผู้ฟังได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง ดนตรีเป็นวิชาที่เกี่ยวกับทักษะ ทักษะเกิดได้จากการเรียนรู้และฝึกฝนบ่อยๆ ต้องใช้เวลาในการเรียน ฝึกซ้อม ทำให้เกิด สมาธิได้โดยไม่รู้ตัว ในขณะที่เราเล่นดนตรี ตามองโน้ต หูฟัง ต้องบังคับมือทั้งสองมือเล่นตามตัวโน้ตให้ถูกต้อง เมื่อใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เราทำจึงเกิดสมาธิ ความนิ่งย่อมพัฒนาไปพร้อมกับการเจริญเติบโตของเด็ก ขณะเดียวกันความก้าวร้าว การตัดสินใจรวดเร็ว โมโหร้าย จะค่อยพัฒนาให้เป็นคนสุขุมมากขึ้น ดังนั้นวุฒิภาวะทางอารมณ์ ก็จะดีขึ้นไปพร้อมกับการพัฒนาทางด้านร่างกายให้เติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพ
คุณค่าของดนตรีนั้นมีมากมาย การให้เด็กสัมผัสความไพเราะ ความนุ่มนวลของดนตรี จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มีคุณภาพ ให้ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตดังที่ ดร.สุกรี เจริญสุข นักวิชาการดนตรีได้กล่าวไว้ว่า ” กินข้าวเพื่อให้มีชีวิตอยู่ มีดนตรีเพื่อให้อยู่อย่างมีชีวิต ” ซึ่งผู้เขียนได้เห็นแล้วว่าเป็นจริง เพราะคำว่าคุณภาพไม่ได้หมายถึงเรียนเก่งอย่างเดียว ต้องมีคุณภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อมีจิตใจดี คิดหรือทำในสิ่งใดก็จะดี ความสำคัญของดนตรีนั้นนอกจากจะพัฒนาอารมณ์ สังคม และสติปัญญาแล้ว ยังเป็นการฝึกฝนให้เด็กได้มีการแสดงออกในทางที่ดีอีกด้วย การพัฒนาความสามารถทางด้านดนตรีตั้งแต่ยังเล็กด้วยวิธีการและขั้นตอนที่ถูกต้องอย่างเหมาะสมคือสิ่งที่ช่วยให้เด็กเติบโตขึ้นมาพร้อมกับจิตใจที่อ่อนโยนและยังประโยชน์ให้มวลมนุษยชาติได้พบกับความสุข ความเพลิดเพลินและอื่น ๆอีกนานัปการ ที่สำคัญวันนี้คุณมอบดนตรีที่มีคุณค่าเช่นนี้ให้ลูกหรือยัง